สวัสดีค่ะ พี่อู๋ตั้งใจจะทำรีวิวมหากาพย์เลยนะคะ ของการเรียนแพทย์ที่จริงทุกมหาลัยนะคะ วันนี้ก็เป็นคิวของมหาลัย Fudan นะคะ เป็นคิวแรกเลยนะคะ เพื่อความอัพเดตล่าสุดนะคะ วันนี้ก็จะเชิญน้องแคนดี้ มารีวิวการเรียนการใช้ชีวิตในมหาลัย Fudan นั่นเองค่ะ
.
.
แนะนำตัว
สวัสดีค่ะ แคนดี้นะคะ เป็นนักศึกษาแพทย์ โปรแกรม MBBS นะคะ คือแพทย์นานาชาตินั่นแหละ
ทำไมถึงเลือกเรียนแพทย์ที่ Fudan university
ตอนแรก ไม่ได้ specific ประเทศ แต่ว่าอยากเรียนแพทย์ และอยากไปต่างประเทศ แล้วเรารู้จักรุ่นพี่คนนึงที่เรียนอยู่ที่ Fudan และได้แนะนำให้รู้จักพี่อู๋ Intexcel พี่อู๋ก็แนะนำดีมากเลย แนะนำตั้งแต่แบบ การสมัคร การเข้าเรียนการอ่านหนังสือว่าแบบ เข้ามาต้องเจอยังไง ค่ะ แล้วก็ตอนนั้นก็เริ่มหาข้อมูลเมืองเซี้ยงไฮ้
ก็รู้สึกว่า เป็นเมืองที่เจริญและมีวิวัฒนาการอะไรใหม่ๆอยู่เสมอ เลยตัดสินใจมาที่ Fudan
.
.
Review การเรียนตลอด 6 ปีให้ฟังหน่อย
ปี 1 ก่อนเลยนะ เราก็จะเรียนที่ Handan campus ก็คือ ปี 1 เป็นปีเดียวที่จะเรียนที่ Campus นี้ แล้วก็จะเรียนแบบมอปลายวิทยาศาสตร์ ฟิสิกส์เคมี ชีวะ แคลคูลัส ใช่ไหมอันนี้ แล้วก็มีวิชาแบบ เอ่อ มีเรียนบังคับภาษาจีนซึ่งมันดีมากเลยนะ เพราะว่าแบบ มันทำให้เรามีชีวิตรอดได้ในประเทศจีน มันภาษาที่ 3 แล้วก็จะมีวิชาประวัติศาสตร์ด้วย ซึ่งก็สนุกดี แต่ว่าไม่ได้ใช้ แล้วก็มีวิชาเลือกค่ะ ซึ่งอันนี้ก็แล้ว แต่ความสนใจเลยว่าชอบอะไร
ส่วนปี 2 ปี จะเรียนพวกเกี่ยวกับความผิดปกติของร่างกายเนอะ แล้วก็ไปเรียนอนาโตมีก็คือเป็นพื้นฐานของการเรียนแพทย์ แต่ว่ายังไม่ได้ลงลึกว่า เอ่อ ต้องรักษาคนไข้ยังไง แต่แค่ดูแค่ว่าเซลล์มันผิดปกติอย่างไร วิชา Histology ก็คือเรียนส่องกล้องดูความปกติของเซลล์ ช่วงปีนี้เราก็จะได้ผ่าอาจารย์ใหญ่คล้ายที่ไทยเลย
ปี 3 น้องก็จะเรียนลึกขึ้นมานิดนึง จะเป็นหลักๆ จะเป็น Microbiology เรียนเกี่ยวกับ Bacteria virus เป็นเรื่องยา Pharmacology หรือว่า เป็น Problem base learning เป็นเคสจำลองซึงมีข้อมูลค่อยๆเฉลยออกมา คล้ายคนไข้จริงที่เราต้องซักประวัติไปทีละสเตป ซึ่งก็จะเป็นการเรียนเฉพาะทางของแพทย์แล้ว
ปี 4-5 ก็จะเริ่มลงลึกในแต่ละระบบของร่างกายแล้ว ทั้งความปกติและความผิดปกติทั้งตัวโรค การดำเนินโรคต่างๆ แต่มีความจำเพาะมากขึ้นเช่น Ob-gyn ก็คือสูติ ก็เรียนลึกไปเป็นวิชาๆเรียนไปทีละโรคๆ
ปี6 หรือเรียกว่า extern ก็จะได้เข้ามาฝึกงานที่รพ ซึ่งก็ได้เจอคนไข้จริง ได้ทำงานตามปกติเหมือนแพทย์เลย ได้เข้าผ่าตัดเข้าผ่าตัด หมายถึงช่วยการผ่าตัด ไม่ได้ผ่าเองนะคะ แต่ก็แบบ มีให้ช่วยทำถืออุปกรณ์ เย็บแผล เจาะเลือดประมาณนี้
.
.
เรียนแพทย์ที่จีนความรู้ไม่ดีหัตถการไม่ได้จริงมั้ย?
ขออนุญาติแบ่งเป็น Theory กับ practical นะ ถ้าเป็นทฎษฎี การเรียนแพทย์นะคะไม่ว่าจะเรียนที่ไหนอะ สไลด์ที่อาจารย์สอนมันมีผลน้อยกว่าครึ่งหนึ่ง เพราะว่าที่เนี่ย มันก็ต้องกลับมาเช็ค power pont และกลับมาอ่านต่อที่บ้านเองอยู่แล้ว และก็ไม่ใช่ทุกอย่างที่อาจารย์พูดมาริบเดียว เราจะเข้าใจทุกอย่างจำได้ทุกอย่าง เป๊ะทุกอย่าง ไม่มีทาง ยังไงก็ต้องกลับมาแล้วก็เอาที่อาจารย์พูด และสไลด์ที่อาจารย์สอนนั่งอ่านอีกรอบเลย ซึ่งต่อให้ อาจารย์อธิบายดีแค่ไหน น้องก็ต้องไปอ่าน และออกไปหาความรู้ที่อื่นเสริมอยู่ดี ไม่ใช่ว่า น้องจะฟังที่อาจารย์สอนรอบเดียวและทำข้อสอบได้เลย ไม่มีทางอยู่แล้วค่ะ
ส่วน Practical คือแล้วแต่ตัวนักเรียน คือเรา เป็นคนที่พูดจีนไม่ได้ ตอนแรกก็กลัวเหมือนกัน ว่าถ้าเกิดพูดกับอาจารย์ไม่ได้ แล้วเขาก็จะไม่สนใจแบบ เราก็กลับไทยไปทำก็ทำอะไรไม่เป็นแน่ๆ เลย แต่ว่า เอาจริง ๆ อาจารย์ที่จีน เขาชอบคนต่างชาติมากเลยนะ เพราะว่า พอรู้ว่านี่พูดจีนไม่ได้แต่พยายามเสนอหน้า แบบอยากรู้ อยากทำอะไรอย่างนี้ เขาก็จะแบบ Baby เรามาก คือแบบ น้องทำผิดไม่เป็นไร ทำใหม่ ก็รู้สึกว่าได้ทำเยอะจริง ๆ แต่มันก็ขึ้นอยู่กับอาจารย์นะ อาจารย์บางคนก็อาจจะที่รำคาญ ก็ต้องแบบ ดูมองตาแล้วก็จะต้องดูว่าอาจารย์คนนี้เล่นด้วยได้ อาจารย์คนนี้แบบ ถ้าเขาไม่โอเค ก็คืออยู่ห่างๆ ถ้าเราแบบเข้าหาอาจารย์เป็น แล้วเราไม่ได้ ทำให้ความปลอดภัยของคนไข้เรามันน้อยลง อย่างเงี้ย อาจารย์ก็ให้ทำ อาจารย์ก็สอนเยอะ
.
.
อาจารย์ที่สอนเป็นคนจีนหรือชาวต่างชาติ
ปี1-3 จะ mix กันนะ แต่ถ้าขึ้นปีสี่ที่เข้ารพส่วนใหญ่จะเป็นอาจารย์จีนแต่คือก็พูดอังกฤษได้นะ แต่สำเนียงก็แล้วแต่คน แต่ก็สามารถยกมือถามได้ตลอดถ้าไม่เข้าหรืออยากให้อาจารย์อธิบายอัไรเพิ่มเติม
.
.
Review สภาพแวดล้อมความเป็นอยู่และหอให้หน่อย
การเดินทางของเซี้ยงไฮ้ ง่ายๆ ง่ายมาก ง่ายกว่าที่ไทย เพราะว่าเราทำที่ Handan และ Fenglin ที่เราเรียน ทั้งคู่ มันอยู่ติดสถานีรถไฟฟ้า ซึ่งรถไฟฟ้าที่นู่นคือ มันก็ไปได้ทุกที่เลย สถานที่ที่ท่องเที่ยวต่างๆ ที่แบบดังๆ ก็คือไปง่ายมาก เที่ยวง่ายมาก นอกจากนี้ก็ถ้าเบื่อในเมืองเซี้ยงไฮ้มันก็จะมีเมืองใกล้ๆแบบ นั่งรถไฟ ความเร็วสูงเป็นเที่ยว One day trip ก็ง่าย ส่วนแท็กซี่ ไม่ต้องได้ภาษจีนก็ได้ แค่ใส่ว่าอยากไปไหน แค่นั้นและรอจ่ายตังค์จบ ส่วนหอ นี่พูดในฐานะคนที่อยู่ทั้งหอในและนอก หอใน มันถูกว่า แบบครึ่งครึ่งมาก ๆ แต่ว่า เรื่องความสะดวกสบายเนี่ย มันก็อาจจะสู้หอนอกไม่ได้ เพราะว่า หอนอกมันกว้างกว่า มี Space ของตัวเอง แต่ตอนนี้อะ หอของปี สองอ่ะ เค้ากำลังมีรีโนเวท ก็ฉะนั้นปีใหม่ๆ ที่เข้ามาก็โชคดี แล้วก็ เซี่ยงไฮ้เป็นเมืองปลอดภัยมากเลยนะคะ เพราะว่ามีกล้อง เออ เออ เรียกว่าอะไร ซีซีทีวี มีที่เสาทุกต้นเลยค่ะ ดังนั้นปลอดภัยมากค่ะ
.
.
Review ค่าใช้จ่าย
ที่นี่ไม่แพงอย่างที่คิดนะคะ รู้สึกว่าพอๆกับที่ไทยค่าครองชีพ
ค่าเทอม 75,000 หยวน ต่อปี
ค่าหอใน 12,000 หยวน ต่อปี
ค่ากินค่าอยู่ ถ้าไม่ได้หรูมากประมาณ 2000-3000 หยวนต่อเดือน
แต่ที่นี่เครื่องสำอางค์แพงกว่าที่ไทยแนะนำว่าซื้อที่ไทยคุ้มกว่า
ค่าน้ำค่าไฟที่นี่ถูกยิ่งเป็นหอในแบบเติมเงิน200หยวนได้ทั้งเทอมแต่ถ้าหอนอกอาจจะได้แค่เดือนเดียว
ค่าเน็ต 550 หยวนต่อปีค่ะ
.
.
หลังเรียนจบทำงานที่ไหนได้บ้าง?
คือ Fudab คือ start with F
Freedom, Fantastics คือเราจะไปไหนก็ได้ แต่ว่าก็ต้องดูกฏของแต่ละประเทศนั้นๆ ด้วยนะ อย่าง เท่าที่จำได้อาจจะมีเกาหลี ที่ต้องจบเฉพาะทางก่อน แล้วกลับไปทำงานที่เกาหลีได้ แต่ถ้าอยากประเทศอื่น ๆ ที่คนฮิตๆไปกันอย่างเงี้ย UK US ออสเตรเลีย ฮ่องกง ก็คือไปได้เลย ก็คือไปสอบตาม Step ของเขาตามขั้นตอนของเขาได้ เพราะว่าประเทศนั้นมัน Recognize เราอยู่แล้ว อย่างที่ไทยก็เหมือนกัน ที่ไทย ก็คือ แล้วก็มีสอบ NL 1 2 3 ตามสเต็ป แล้วก็กลับมาทำงานเป็นแพทย์ที่ไทย
.
.
ข้อดีข้อเสียของมหาลัย Fudan
ข้อดีเยอะมากเลยอะแล้ว แต่ก็ เอ่อ ถ้ากลัวเรียนเครียดเกินไปเพราะเราเรียนแพทย์เนอะ ไม่ต้องกลัวเครียด เพราะว่าเรามีสิ่งที่เรียกว่า Fimso หรือสภานักเรียน เขาก็จะคอยจัดหากิจกรรมให้เรา แบบ รับน้อง hospital visit ทำกิจกรรมอาสา หรือว่าแบบ กิจกรรม ที่แบบทุกคนเอาอาหารมาแชร์กันหรือบางที อีเว้นท์กับเด็กจีนอย่างงี้อะซึ่งจะ ก็ได้รู้จักกัน ก็สนุกมากๆก็เป็นกิจกรรมที่ทำให้สนิทกับเพื่อนมากๆ ขึ้นด้วย แล้วก็ข้อดีก็อย่างที่บอกว่า เมืองเซี้ยงไฮ้มันสะอาดมาก ๆ คือขนาดถนนนี้เป็นแบบ ถนน ธรรมดา ถนนที่ไหนก็ได้นะ เดินเล่นได้เลยอะ ไม่เห็นขยะเลย ถ้าไม่ได้ไปแบบสถานที่เที่ยวกลางคืน มันก็จะแบบ ดูเป็นอีกโลกนึงเลยค่ะ แล้วก็ขนาดสะพานลอยยังมีดอกไม้ประดับ
ส่วนข้อเสีย ก็จริงๆ แล้วมันน่าจะเป็นกับคนที่เรียนต่างประเทศทุกคนเป็นแหละ เพราะว่าเรามาอยู่ที่ต่างประเทศเนาะ แต่ไม่มีคุณพ่อคุณแม่มากๆ บอกว่าแบบ อ่านหนังสือ กินข้าวนะ คือทุกอย่าง เราจะต้องช่วยตัวเอง ถ้ามีอะไรก็คือต้องจัดการด้วยตัวเอง
.
.
คนแบบไหนเหมาะจะมาเรียนที่ Fudan
เหมาะกับทุกคนเลย ถ้าแบบ รู้ตัวว่ากำลังทำอะไร อย่างแบบ เพื่อนเราก็มีหลายแบบ เหมือนกัน บางคนก็จะเป็นสายปาร์ตี้ เที่ยวทุกวันแต่คือมันก็เรียนได้ แล้วก็ได้คะแนนดี ก็คืออยู่ที่ว่าจัดการตัวเองเป็นหรือเปล่าอะไรงี้อะค่ะ แต่อย่างอย่างของเราอย่างเงี้ย ก็จะเป็นฝ่ายแบบ เรียบร้อย พูดน้อย แล้วก็อยู่บ้าน อ่านหนังสือ หรือ แต่ก็คือเป็นเพื่อนกับพวกคนที่ปาร์ตี้ได้ด้วย เพราะว่าเข้าใจว่าแบบไลฟ์สไตล์แต่คนละไม่เหมืนกัน ตราบใดที่คือแบบพยุงตัวเองได้ก็คือจบ แล้วก็รู้สึกว่าคนที่มาเรียนที่ Fudan ก็คือต้อง เปิดใจกับวัฒนธรรมใหม่ ใหม่นิดนึง อย่าแบบปิดกับตัวเองมากเกินไปนะคะ เพราะว่าเรามาอยู่ที่นี่แบบ วัฒนธรรมมันต่างกันมากเนาะ บางคน ก็จะแบบ มีมุมที่เราอาจจะไม่เคยเจอมาก่อน แต่ว่าแบบ ไม่ใช่เรื่องแย่ มันเป็น Culture ที่เราแบบ ไม่เคยเห็น ไม่เคยเจอ ซึ่งมันทำให้เราแบบ ได้มองเห็นอะไรหลายอย่าง ก็ไม่มีอะไรยากเกินไปค่ะ
.
.
ถ้าสนใจสมัรเข้าเรียนต้องทำยังไง?
ถ้าทุกคนสนใจ Fudan นะคะ ก็ Intexcel เลยค่ะ เพราะว่าพี่อู๋แนะนำตั้งแต่ขั้นตอนแรก จนถึงขั้นตอนสุดท้ายจนกระทั่งแบบนี้ ก่อนที่จะบินอย่างเงี้ย พี่ก็ยังนัดมาเจอแล้วก็แบบบอกว่าไปแล้วจะเจอแบบนี้แบบนี้นะ แล้วพี่อู๋เดินเรื่องเอกสารให้หมดเลยนะ ตอนที่แบบเราสมัคร แล้วก็ตอนที่จะมหาวิทยาลัยจะเรียกไปสัมภาษณ์อย่างเงี้ย พี่อู๋ก็มีการแบบติวให้ แล้วก็มีคำถามซ้อมให้ ซึ่งก็คือ ตรงกับคำถามที่มหาวิทยาลัยถาม ค่อนข้างแบบช่วยในการสัมภาษณ์เยอะมาก ค่ะ แล้วก็หลังจากที่ติดพี่อู๋ก็ยังช่วยต่อ จากวันแรกที่มาก็คือพี่พาไป registerเรียบร้อย เลยนะ ก็เลยรู้สึกว่าแบบ เออ ดีจังเลย ที่แบบมีรุ่นพี่ ที่แบบ เขาเรียนอยู่ที่นี่อยู่แล้ว แล้วก็รู้ระบบ คณะนี้
.
.
และด้วยความที่ เราเรียนอยู่ Fudan เหมือนกัน พี่อู๋ก็จะคอยอัพเดตตลอดเลย ว่าแบบ ตอนนี้ ถ้าเกิดว่าที่ไทยจะสอบอย่างงี้อะ น้องจะต้องทำยังไง ต้องต้องสมัครปีไหน เพราะว่าเราก็จะไม่ค่อยรู้ แต่ว่าพี่อู๋รู้ แล้วพี่อู๋ก็แนะนำตลอดเลย ว่าแบบ ต้องอ่านอย่างนี้ อันนี้ อย่างนี้ ก็ทำตามพี่อู๋แล้วชีวิตก็จะเจริญค่ะ ก็ intexcel นะคะทักเข้ามาได้เลยค่ะ555
.
.