“🇨🇳 จีนเป็นประเทศที่พัฒนาไว พวกเขาไม่ใช่แค่เดิน แต่พวกเขากำลังวิ่ง”
.
มันทำให้เราอยากรู้ว่าทำไมเขาถึงพัฒนาได้ขนาดนี้ เลยต้องลองไปเจอด้วยตัวเอง
.
.
เราหลายๆคนต่างมีความฝัน อยากทำอะไรสักอย่าง แต่หลายๆครั้งก็ยังไม่ได้เริ่มสักที
.
ลองใหม่ไหม? แค่เริ่มเอาตัวเองเข้าไปสู่แวดล้อมที่เราฝันไว้
.
“เพราะการปรับสิ่งแวดล้อมรอบตัวเรา นั่นอาจเป็นจุดเริ่มต้นของความสำเร็จให้เราได้”
.
“คุณโม” WeChat Mini-Program Developer : ZhongXi Education (EdTech Startup)
.
ชายไทย ผู้พัฒนาตัวเอง จากศูนย์ ด้วยความกล้าเปิดใจ รับแวดล้อมใหม่ๆ สู่การก้าวสู่วงการ Software Developer และ เป็นผู้บุกเบิก International Developer Community ในประเทศจีน ณ เมืองเฉิงตู
.
.
– – – – –
.
✅ กด See First กันด้วยนะครับ จะได้ไม่พลาดอัพเดท ของ Angbao Society
.
✅ ติดตามผลงานจาก Angbao Society กันได้ทาง
.
– – – – –
.
.
#AngbaoInspire EP.4 : WeChat Mini-Program Developer
.
บทสัมภาษณ์ ชายไทยผู้เริ่มจากไม่รู้ภาษาจีนเลยแม้แต่นิด สู่การเข้าบุกเบิกแวดวง Developer ในประเทศจีน และ ใช้ชีวิต ทำงานอยู่ที่นั่น ด้วยการเปิดใจปรับตัวเข้าสู่แวดล้อมที่เต็มไปด้วยความท้าทาย
.
.
คุณโม – อายุ 33 ปี
.
.
#จุดเริ่มต้น “เราเคยมองจีนเป็นคู่แข่งทางธุรกิจมาก่อน ว่าทำไมถึงพัฒนาไวขนาดนี้”
.
คงไม่แปลกมากนักหากใครหลายๆคน บนโลกใบนี้จะมองจีนเป็นคู่แข่งทางการค้า หรือ ธุรกิจต่างๆ
.
แต่หากได้ทำความรู้จักให้ลึกเข้าไป เราคงได้เรียนรู้ถึงความคิด และ ปัจจัยต่างๆของพวกเขา และ มาปรับใช้กับตัวเองได้ อย่างเช่น คุณโม คนนี้
.
คุณโม เป็นชายหนุ่ม ดีกรีปริญญาโท ด้าน Engineering ที่เติบโตจาก ครอบครัวที่ทำธุรกิจส่วนตัว และ เข้าสู่การทำงานด้าน IT กับความสนใจเรื่องการเขียน Software มาตั้งแต่เรียนมัธยม
.
แล้วคุณโมมาปักหลักอยู่ที่ประเทศจีนนี้ได้อย่างไร? จากที่ทำงานสายไอทีมาก่อน และ ไม่เป็นภาษาจีนเลยแม้แต่นิดเดียว
.
คุณโม เล่าให้เราฟังแกมหัวเราะว่า…
.
“ใช่ๆ จริงๆก่อนหน้านี้ ผมรู้จักจีนแค่ในแง่ของธุรกิจ จนกระทั่งผมเริ่มสงสัยว่า ทำไมคนจีนถึงทำธุรกิจเก่ง และ ประเทศพัฒนาได้เร็วขนาดนี้”
.
“จนวันหนึ่งผมได้เจอคู่ชีวิตเป็นชาวจีน ซึ่งผมต้องตัดสินใจว่าจะสร้างครอบครัวที่ไหนดี ระหว่างไทย หรือจีน”
.
“จนได้ลองมาที่เมือง Chengdu บ้านเกิดของภรรยา แว๊บแรกที่เห็นคือ ตัดสินใจได้เลยว่า มันคือที่นี่แหละที่เราจะปักหลัก
.
หลายคนอาจจะติดภาพลักษณ์เก่าๆของจีนที่เคยถูกมองลบๆไว้ แต่หลังจากที่ผมมาที่นี่ ผมรู้สึกต่างออกไปในทันทีเลยนะ
.
ขยะไม่มีสักชิ้นบนถนน ความสะอาดนี่สะอาดมาก ตึกก็มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ไม่ต่างกับยุโรปเลย”
.
“เมืองเฉิงตู นี่ก็ถือเป็นเมืองใหญ่ที่กำลังพัฒนาไปไวมากๆ จากเมือง Tier 2 สู่การก้าวขึ้นเป็น Tier 1 ในอนาคต
.
หลายๆคนอาจจะไม่รู้ว่า ที่เฉิงตู ก็ขึ้นชื่อเรื่องการเป็นเมืองที่เด่นด้านอุตสาหกรรม Software และ Gaming ในจีน
.
บริษัทยักษ์ใหญ่ในจีน ก็ค่อยๆเริ่มย้ายเข้ามาตั้งออฟฟิศที่นี่กัน
.
และ สำหรับผมเอง ผมเลือกถูกนะ ที่ตัดสินใจมาท้าทายตัวเองในแวดล้อมใหม่ๆ โดยเฉพาะการใช้ชีวิตและภาษาที่เรามาจากศูนย์เลย”
.
.
.
.
#เราไม่รู้จักจีนแต่เราอยากรู้จักมากขึ้น
.
“ก่อนมาจีน ผมเห็นแค่ว่า เออจีนเขาพัฒนาไปเร็วดีเนอะ สิ่งก่อสร้างนี่อลังการมากๆ
.
แต่พอมาจีนมันทำให้เห็นมุมอื่นๆด้วย เช่นกับเรื่องคน ผมประทับใจ กับคนจีนมากๆ
.
ผมเห็นความขยัน ความเก่งของพวกเขา และ มันทำให้อยากรู้ ว่ามันเพราะอะไร?”
.
จนเราได้เข้าใจว่า จริงๆการพัฒนาของจีนที่เร็วมาก เร็วจนน่ากลัวขนาดนี้
.
จริงๆแล้ว มันมาจากทุกภาคส่วนของสังคมจริงๆ ตั้งแต่ประชาชน – ภาครัฐ – เอกชน ทุกคนเขามองเห็นประโยชน์ของชาติร่วมกัน
.
เขาขยัน ขยันไม่พอ ดันเก่งอีก เก่งไม่พอ ดันมีวินัยอีกด้วย แม้กับในเรื่องเล็กน้อยๆ
.
เช่น วันนึงผมสั่งอาหาร Delivery จากแอพนี่แหล่ะ แล้วคนขับ รถล้มมาส่งเองไม่ได้ นี่เขายังอุตส่ารีบโทรมาหาผม บอกรบกวนรอแปปนึง เดี๋ยวให้เพื่อนไปส่งแทน
.
เห้ย! คือไม่คิดว่า… จะมีแบบนี้ คือนั่นก็เกือบตายแล้ว ยังจะมาห่วงอาหารของเราอีก!”
.
.
“อีกอย่าง Cashless society ของจีน คือมันไม่ใช่แค่คนรุ่นใหม่วัยรุ่นนะ แต่มันไปถึงกลุ่ม ปู่ย่าตายาย แล้ว ที่ใช้กันทุกคน”
.
“และ พวกนี้มันคือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในประเทศจีน ที่ทำให้ผมเข้าใจว่า มันไม่ใช่คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่มันคือการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของคนทั้งหมด”
.
.
.
.
#ไม่เป็นภาษาเลยไม่ต้องกลัว เอาตัวเองเข้าไปอยู่ตรงนั้นก่อน เดี๋ยวเป็นเอง
.
“พี่โม โตมากับสายวิทย์ สมัยก่อนผมไม่เก่งภาษาเลย แม้แต่กับภาษาอังกฤษ”
.
“แต่พี่ เป็นคนกล้าเสี่ยง กล้าที่จะเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในสถานการณ์ ที่ต้องบีบบังคับตัวเอง
เช่น ตอนเราเด็กๆ ภาษาอังกฤษเราก็ไม่ได้ แต่เรารู้ว่า มันเป็นสิ่งสำคัญ
.
เลยมีจุดเปลี่ยนในชีวิต เมื่อตอนเราขอพ่อแม่ไป Work & Travel ที่อเมริกาตอนปีหนึ่ง และไปคนเดียว พูดได้แค่ Yes / No
.
พี่ไปทำงานเป็นเด็กล้างจานอะ ทำไปพักนึงรู้สึกว่ามันไม่ใช่แล้ว มันเหนื่อยมากทำตั้งแต่บ่ายสาม ยันตีสาม จนร่างกายเริ่มล้า น้ำหนักลดลง 20 กิโล ภายในหนึ่งเดือน มันถึงจุดที่ถ้าเราไม่พูดเราจะต้องแย่แน่ๆ
.
ไอ้ตอนนั้นเองนี่แหละ ที่สถานการณ์มันบีบ มันบังคับให้เราไม่กลัวและเผชิญหน้ากับการพูดภาษาอังกฤษ และ สุดท้ายมันก็พูดออกมาได้เฉยเลย เหมือนสมองกดสวิทช์ให้พูดได้ ซึ่งคนต่างชาติก็คนเหมือนเรา พูดถูกผิดอย่างน้อยก็ต้องพูดออกไป
.
.
เพราะงั้น พี่ว่ามันอยู่ที่ว่า เรากล้าที่จะใช้ภาษาด้วยไหม?”
.
“เหมือนกันพอตัวเราต้องย้ายมาอยู่ที่จีน เลยไม่ได้กังวลอะไรมาก เพราะเราผ่านสถานการณ์ที่มันแย่กว่านี้มาแล้ว และ เราก็เอาตัวรอดมาด้วยตัวเองมาแล้ว
.
พี่เลยเอาตัวเองนี่แหละ ย้ายมาที่จีนก่อน แล้วสกิลการเอาตัวรอดของเรา มันจะค่อยๆพัฒนาเอง
.
เช่น การโดนคนจีนรัวภาษาใส่ เราก็ต้องพยายามที่จะสื่อสารกับพวกเขาให้ได้เหมือนกัน”
.
.
สิ่งที่พี่เชื่อมาตลอดคือ… “คนเราถ้าอยากประสบความสำเร็จ มันต้องเริ่มจากการปรับสิ่งแวดล้อมรอบตัว”
.
“ถ้าเราอยากพัฒนาตัวเองแบบไหน ให้เราเอาตัวเองเข้าไปสิ่งแวดล้อมนั้นก่อน / ถ้าอยากเป็นภาษา ก็ต้องเข้าไปในสิ่งแวดล้อมนั้น”
.
“แล้วรอบตัวเรา แวดล้อมไปด้วยคนแบบไหน ทัศนคติของคนเหล่าจะส่งผลกับเราโดยตรง”
.
.
.
.
#พฤติกรรมผู้บริโภคส่งผลต่อการพัฒนาเทคโนโลยีในจีน
.
“เห็นได้ชัดว่าคนจีนเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้เทคโนโลยีได้ไวมากๆ
จากเมื่อสองสามปี คนจีนใช้เงินสด อยู่ๆมาในวันนี้ คนจีนทุกคนต้องใช้ WeChat Pay/AliPay กันหมด
.
จนแอพเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตของคนจีนในปัจจุบัน
.
การที่คนจำนวน 1000 ล้านคนจาก 1433 ล้านคนในจีน สามารถใช้เทคโนโลยีเดียวกัน มันสามารถสร้างอิมแพคในการเปลี่ยนแปลงสังคมไร้เงินสดได้อย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นเรื่องธรรมดาที่คนจีนไม่พูดถึงกันแล้ว
.
“ทั้งภาครัฐ และ เอกชนใหญ่ๆ เขาร่วมมือกันสร้างความเปลี่ยนแปลงได้ดีเลยนะ เช่น ช่วงแรก วันชาติจีนจะมีหยุดประมาณ 5 วัน บริษัทยักษ์ใหญ่ก็จะออกมาแจกเงินผ่านอั่งเปา ประมาณ 500 ล้านหยวน ให้เล่นเกมส์ AR และ ลุ้นว่าจะได้สุ่มเงินอั่งเปาเท่าไร
.
ตัวอั่งเปา เป็นเหมือนจุดเปลี่ยนที่ทำให้คนจีนหันมาใช้ WeChat Pay / AliPay เหมือนกัน เพราะเราต้องอวยพร และ ให้อั่งเปาคนในครอบครัว ซึ่งบางครั้งครอบครัวก็อยู่ต่างเมืองทำให้การใช้เงินสดเป็นอะไรที่ไม่สะดวกเลย
.
นี่มันคือการลงทุนเพื่อเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคดีๆนี่เอง”
.
.
.
.
#WeChatMiniProgram #โอกาสในการทำธุรกิจ
.
“ตอนนี้จีนมี WeChat Mini-Program เข้ามาปฏิวัติวงการแอพในจีนเพิ่มอีก
.
มันคือแอพพลิเคชั่น ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาให้ใช้บน WeChat ตัวเดียวได้เลย คือไม่ต้องโหลดแอพอื่นๆเพิ่ม
เพราะมันถูกรวมอยู่บน WeChat เรียบร้อยหมดแล้ว
.
มันคือตัวเชื่อมโลก Offline เข้าสู่ Online กับการใช้ชีวิตที่ง่ายขึ้น และ ตอบโจทย์ธุรกิจ การทำการตลอดของแบรนด์ต่างๆอีกด้วย
.
เป็นสิ่งที่คนจีนใช้ทุกวัน ในทุกธุรกิจโดยที่ไม่ต้องดาวน์โหลดแอพลงมือถือ แค่แสกน QR Code และ เข้าสู่ Mini-App ได้เลยทันที
.
เช่น เข้าร้านอาหารไม่จำเป็นต้องพูดกับคนรับออเดอร์ เพียงแค่แสกน QR Code บนโต๊ะ ก็สามารถเลือกเมนูได้เลย / ช่วง COVID19 จะเข้าตึกไหน จำเป็นจะต้องเปิด Mini-App เพื่อโชว์ Health Code ว่าเราไม่ใช่กลุ่มเสี่ยงติดเชื้อด้วยเหมือนกัน”
.
.
.
.
#คนจีนคุยได้เจรจาได้ทุกเรื่อง #แค่เราเข้าใจเขามากแค่ไหน?
.
“ประเทศจีนเขาพัฒนาในด้านของ ผังเมือง และ คุณภาพชีวิตไปดีกว่าเดิมมากๆ
จริงๆอยากให้หลายๆคนลองมาเที่ยวจีนดู ต้องลองเที่ยวในเมืองใหญ่ๆ
จะรู้เลยว่า มันไม่มีแล้วส้วมหลุมแบบนั้น และ ห้องน้ำเขาสะอาดมาก”
.
.
“หากเราเข้าใจคนจีน เราจะรู้เลยว่า คนจีนเก่ง และ ขยันจริง พวกเขาทำงานตรงไปตรงมานะ เฉียบขาดกับการทำงาน บางทีเลยอาจทำให้คนที่ไม่คุ้นกับวัฒนธรรมแบบนี้ ไม่พอใจได้”
.
“คนจีนจริงใจ และ คุยได้ทุกเรื่อง ขอแค่เราคุยกับเขา พวกเขาไม่ใช่จะมาเอาประโยชน์จากเราเสมอไป
บทเขาจะให้ ก็ให้เราเต็มที่จริงๆ การทำธุรกิจหรือการค้ากับคนจีน ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ และ การสื่อสาร”
.
.
.
.
#วิเคราะห์หาจุดเด่นของตัวเองให้เจอ
.
“ตอนพี่มาอยู่ที่จีนแรกๆ เรารู้เลยว่าภาษาเรา สู้คนจีน Native Speaker ไม่ได้แน่นอน
แต่ถ้าอยากรอด และ ใช้ชีวิตที่นี่ พี่เลยมาดูตัวเองว่า เราก็มีจุดเด่นด้านการทำ Software นี่หว่า
.
เลยเริ่มจากปรับสิ่งแวดล้อม พาตัวเองให้รู้จักเพื่อนdevelopers และพาตัวเองเข้าวงการไอทีที่นี้ ด้วยการใช้ภาษาอังกฤษพูด กับคนต่างชาติที่อาศัยในจีน และคนจีนที่นี้แหล่ะ
.
ต่อมามีโอกาสได้เข้า Startup Bootcamp ที่นี้ กับการเป็นอาจารย์สอน WeChat Mini-Program และ ทำ Web Development ไปด้วยในตัว”
.
.
“ในยุคของพวกเรา และ ยุคในอนาคต การแข่งขันจะสูงขึ้น งานหลายอย่างจะหายไปเพราะ Automation เข้ามาทดแทนคน”
.
“เราไม่ได้อยู่ในยุค Industrial ที่ใช้แรงงานเป็นหลักอีกแล้ว ตอนนี้เราเข้าสู่ยุคของเทคโนโลยี Automation
มันเห็นได้ชัดมากว่า เทคโนโลยีเข้ามาแทนที่คนหลายๆคน ซึ่งโควิทเป็นตัวเร่งให้ทุกอย่างมันเร็วขึ้น”
.
“ต่อไปนี้ มันไม่ใช่เรื่องของ การเป็นคนขยัน และ เก่งอย่างเดียวแล้ว
สำคัญคือ ต้องสร้างจุดเด่นให้ตัวเอง ต้องสร้างความ Unique ให้ตัวเองให้ได้ ต้องหาความสามารถที่เราเก่งและคนอื่นไม่มี หรือมีน้อย เพราะต่อไปธุรกิจจะเลือกเฉพาะคนที่มีความสามารถที่คนอื่นไม่มี”
.
.
“การที่เราได้ภาษาด้วย มันจะเป็นการเปิด โอกาสให้เรามากขึ้นไปอีก ภาษามันเหมือนเป็นกุญแจ พาเราไปสู่ประตูอีกบาน แค่เราปลดล็อคประตูให้ได้ก่อน โอกาสต่างๆมันก็จะมากขึ้น”
.
“ในยุคนี้ มันต้องมากกว่า 2 ภาษาแล้วนะ ไทย อังกฤษ มันไม่พอ ถ้าได้ภาษาจีนด้วยโอกาสจะมาเพิ่มขึ้นอีกมาก อย่างน้อยเราสามารถคุยกับคนเพิ่มได้อีก 1433 ล้านคน”
.
.
.
.
และ นี่ก็คือจุดเริ่มต้นของการเดินทางของคุณโม
เส้นทางที่เริ่มจาก “ไม่รู้” สู่ “การอยากรู้” ให้ตัวเองได้ออกไปลองสัมผัส และ เปลี่ยนบริบทแวดล้อมของตัวเอง
.
ผสมกับการหาจุดเด่นของตัวเองขึ้นมาชู และ เต็มที่กับเส้นทางที่อยู่ข้างหน้า
.
.
.
“เราเชื่อว่า หลายๆคนในวันนี้อาจจะยังไม่เคยสำรวจ วิเคราะห์ตัวเองว่าอะไรคือจุดเด่นของเรา
.
หากการได้ลองให้เวลาอยู่กับตัวเอง พูดคุยกับตัวเองมากขึ้น เราอาจจะรู้ก็ได้ว่า อะไรคือ Unique Point ของตัวเรา
.
และ จงลองพาตัวเองออกไปอยู่ในแวดล้อมใหม่ๆ แวดล้อมที่เราฝันไว้
.
ไม่แน่ มันอาจจะสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ให้ตัวเองแบบ คุณโม พี่ชายของ Angbao Society ก็เป็นได้”
.
.
.
“Angbao Inspire : The inspiration to begin something new”
.
.
#AngbaoSociety
#วาไรตี้รายการจีนโดยหนุ่มตี๋สาวหมวย